Cafe Wycliffe ครั้งนี้ทำให้ใครหลายๆ คนตกหลุมรักมิชชันนารีคู่นี้ และคนกลุ่มนี้เลยทีเดียว ส่วนแอดมินเองก็แทบไม่เชื่อสายตาว่าในโลกนี้จะยังคงมีคนที่ยิ่งกว่ายากจนข้นแค้นทั้งฝ่ายร่างกายและวิญญาณได้ขนาดนี้เชียวหรือ?
โดยปกติแล้ว Cafe Wycliffe จะบรรยากาศสบายๆ สไตล์ชิลๆ ทั้งเด็ก วัยรุ่น ผู้ใหญ่ เราก็ร่วมกันได้เหมือนอย่างเป็นครอบครัวเดียวกัน เราเล่นเกมส์ไปหัวเราะไป นมัสการพระเจ้าในบรรยากาศที่เต็มล้นด้วยสันติสุข แต่เมื่อเราได้เปิดตัวมิชชันนารีของเราและเมื่อเขาได้แบ่งปันชีวิตจริง เรื่องราวชีวิตความเป็นอยู่ของคนกลุ่มนี้ ทำให้พวกเราแต่ละคนรู้สึกสะเทือนใจกันไปตามๆ กัน
ชีวิตของคนกลุ่มนี้ อยู่ในเขตพื้นที่กันดารของประเทศหนึ่ง สภาพทางกายภาพที่แร้นแค้น เพราะดินที่ไม่อุดมสมบูรณ์ เพาะปลูกพืชไม่ขึ้น น้ำจากธารน้ำเล็กๆ ที่ไม่สะอาด แต่ชาวบ้านก็ต้องทนใช้กินใช้ดื่ม ชาวบ้านขาดความรู้ในการใช้ชีวิตที่ถูกสุขลักษณะ แถมยังโดนนายทุนหน้าเลือดที่กดขี่ ทำให้ชาวบ้านต้องลำบากหนักขึ้น
เมื่อพูดถึงฝ่ายวิญญาณ ก็ยิ่งน่าสงสาร ชาวบ้านที่นั่นยังนับถือผีกันอยู่ คริสเตียนแทบจะเป็นสิ่งแปลกปลอม หรือบุคคลต้องห้ามของคนที่นั่น แต่แม้กระนั้น....ข่าวประเสริฐของพระเยซูคริสต์ก็ยังคงไปถึง และนำให้คนกลุ่มเล็กๆ กลุ่มหนึ่งกลับใจ
สำหรับคนที่ไปร่วมงานคาเฟ่ครั้งนี้ ก็ได้เข้าใจทุกมุมชีวิตของทั้งชาวบ้านและมิชชันนารี ซึ่งแอดมินเองไม่สามารถบอกเล่าผ่านสื่อได้ทั้งหมด เพื่อความปลอดภัยของคนของเรา แต่ถ้าใครสนใจอยากรู้มากขึ้นละก็ แอดขอเสนอให้มาลองใช้ชีวิตแบบมิชชันนารีดูสัก 5 วันใน Camp Wycliffe นะคะ เราจะจัดขึ้นวันที่ 21-25 พฤษภาคม 2018 ที่อำเภออมก๋อย จังหวัดเชียงใหม่
Camp Wycliffe รับจำนวนจำกัด เพียง 15 คนเท่านั้น รีบติดต่อมานะคะ (หมดเขตลงทะเบียน 30 เมษายน นี้)
